ปัญหาแท็กซี่ไม่รับผู้โดยสาร, มารยาทแย่, ขับขี่ไม่ปลอดภัย, และหนักสุดคือทำตัวเยี่ยงโจร เป็นปัญหาคาราคาซังที่ผ่านมานานหลายปีผ่านไปก็ไม่มีหน่วยงานใดสามารถจัดการได้ แถมล่าสุดเล็งขอขึ้นค่าโดยสารขึ้นอีกโดยยังไม่เห็นแนวทางการพัฒนาคุณภาพของผู้ขับขี่อย่างเป็นรูปธรรมเท่าไหร่นัก ซึ่งวันนี้สมาร์ทโฟนที่พวกเราถืออยู่อาจจะเป็นตัวกระตุ้นให้ตลาดเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ จึงอยากขอเชิญชวน เพื่อนๆร่วมด้วยช่วยจบปัญหาแท็กซี่ไร้คุณภาพกับ 3 แอพเรียกแท็กซี่ EasyTaxi, GrabTaxi และ Uber กัน
ทำไมต้องใช้แอพเรียกแท็กซี่
ไม่ปฎิเสธผู้โดยสาร กดเรียกแล้วมารอรับถึงที่
แสดงความคิดเห็นหลังใช้บริการได้ มารยาทดีไม่ดี ขับขี่ไม่ปลอดภัย เรารู้ได้หมด
รู้ตัวคนขับ มีประวัติชัดเจน ติดตามกรณีของหายได้
จ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต(เฉพาะบางแอพ) หมดปัญหาเงินทอนไม่มี
โปรโมชั่นส่วนลดเพียบ!
ในปัจจุบันนี้มี 3 แอพที่กำลังทำตลาดในเมืองไทยอย่างเมามันส์คือ EasyTaxi, GrabTaxi และ Uber ซึ่งผมได้ลองทำตารางเปรียบเทียบค่าบริการและความสามารถของแต่ละอันมาให้ดูกันนะครับ ถ้าข้อมูลส่วนไหนผิดหรืออยากให้เพิ่มตรงไหน บอกได้
EasyTaxi & GrabTaxi : บริการจะคล้ายกันมาก ปกติจะเจอแท็กซี่รับทั้งสองแอพนี้ในเวลาเดียวกัน EasyTaxi จะคิดค่าเรียกถูกกว่าเล็กน้อย แต่ GrabTaxi จะทำตลาดดุกว่ามาก และมีแคมเปญการตลาดพร้อมโปรโมชั่นส่วนลดเพียบ
*EasyTaxi แม้มีระบบการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต แต่เหมือนว่าจะยังไม่มีแท็กซี่ในไทยรองรับ
GrabTaxi : เปิดรับชำระค่าโดยสารด้วยบัตรเครดิตจากความร่วมมือกับธนาคารกสิกรแล้ว
Uber Black : บริการแท็กซี่แบบลิมูซีน เอารถป้ายเขียวมาวิ่งรับผู้โดยสาร พบรถกันขั้นต่ำก็ Camry Accord หรือไปสุดที่ Mercedez หรือ BMW กันเลยทีเดียว แต่ค่าบริการก็จะแพงกว่าปกติพอสมควรเช่นกัน และรถมีไม่มากนัก
Uber X : บริการแท็กซี่โดยใครๆก็สมัครทำได้ หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นรถทะเบียนขาว-ดำ ที่พวกเราขับกันทั่วไปเนี่ยแหละ มีตั้งแต่ toyota vios-altis ค่าบริการช่วงแนะนำจะถูกว่าแท็กซี่ทั่วไป แต่ต่อไปยังไม่ทราบ แต่บางคนก็เป็นห่วงคือความปลอดภัย เพราะเป็นใครที่ไหนมาขับก็ไม่มีใครรู้
5Uber X เป็นบริการที่เปิดให้บริการมาแล้วในหลายประเทศและเกิดปัญหามากมาย…ไม่ใช่ว่าผู้ใช้ร้องเรียนในความปลอดภัยนะ แต่เป็นคนขับแท็กซี่ออกมาโวยว่า Uber X แย่งงาน แย่งผู้โดยสารไปซะหมดเลย Tongue
ข้อควรรู้ :
ระบบการคิดเงินค่าเดินทางของ Uber และ EasyTaxi+GrabTaxi ต่างกัน
EasyGrab จะเป็นการวางระบบครอบปกติเท่านั้น การคิดเงินค่าเดินทางยังใช้มิเตอร์ปกติ รถวิ่งคิดเงินกม.ละ 5 บาท รถจอดหรือติดคิด 1.5 บาทต่อนาที
Uber จะทำระบบขึ้นมาใหม่เลย และจะรถวิ่งหรือรถจอดก็เสียเงินคิด ไม่มีหยุดอันใดอันหนึ่ง แต่โดยรวมก็ยังถูกกว่าแท็กซี่อยู่ราว 10-15%
Uber ไม่ต้องควักเงินเสียค่าทางด่วนให้คนขับ เพราะมันจะหักในยอดรวมอยู่แล้ว
Uber จะไม่มีมิเตอร์บอกค่าใช้จ่ายปัจจุบันเป็นเท่าไหร่อย่างไร ไปรอลุ้นอีกทีตอนบิลแจ้งค่าบริการเข้ามาในอีเมล์เท่านั้น
ทั้ง Uber และ EasyGrab จะคิดค่าบริการเมื่อเราขึ้นรถแล้วเท่านั้น ใครโดนกดก่อนโปรดโวยหรือร้องเรียนไปที่ Call Center ของแอพนั้นๆ
สาเหตุที่หลายๆคนยังไม่ใช้งาน
มีค่าเรียกรถ 20-25 บาท
จำนวนรถที่ใช้แอพยังมีไม่มาก ต้องรอแท็กซี่วิ่งมาหา ซึ่งบางคนโดนไปเกินครึ่งชม.ก็มี
ต้องกดเรียกผ่านสมาร์ทโฟนวุ่นวาย ยืนริมถนนเรียกเลยง่ายกว่า
แต่ในทางกลับกันก็อยากให้ช่วยๆกันใช้แอพเหล่านี้กันเยอะๆนะครับ เพราะลึกๆแล้วเชื่อว่ามันน่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างต่อคุณภาพชีวิตคนไทยได้ไม่มากก็น้อย